ความดัน – ไขมัน – เบาหวาน: 3 เพื่อนซี้ที่หัวใจไม่รัก

ความดัน – ไขมัน – เบาหวาน : 3 เพื่อนซี้ที่หัวใจไม่รัก

ความดัน – ไขมัน – เบาหวาน 3 เพื่อนซี้ที่ “หัวใจ” ไม่รัก 🫀 ความดัน – ไขมัน – เบาหวาน : 3 เพื่อนซี้ที่หัวใจไม่รัก ในบรรดาโรคเรื้อรังที่คนไทยคุ้นเคยกันดี “ความดันโลหิตสูง”, “ไขมันในเลือดสูง” และ “เบาหวาน” มักถูกพูดถึงแยกกัน แต่ในความเป็นจริง โรคเหล่านี้มัก “มาด้วยกัน” และกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคหัวใจโดยที่หลายคนไม่รู้ตัว 1. ความดันโลหิตสูง – หัวใจทำงานหนักขึ้นทุกวัน เมื่อความดันในหลอดเลือดสูงกว่าปกติ หัวใจต้องบีบตัวแรงขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือดไปทั่วร่างกายหากปล่อยให้เป็นนาน ๆ โดยไม่ควบคุม อาจทำให้กล้ามเนื้อหัวใจโต หัวใจล้า หรือเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้ 2. ไขมันในเลือดสูง – ตัวการหลอดเลือดตีบ ไขมันเลว (LDL) ที่สะสมอยู่ตามผนังหลอดเลือด จะทำให้หลอดเลือดตีบ แข็ง และเปราะเลือดไหลผ่านได้ยากขึ้น หัวใจจึงต้องทำงานหนักขึ้น เสี่ยงต่อภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหากไขมันหลุดไปอุดหลอดเลือด อาจทำให้เกิดหัวใจวายเฉียบพลัน 3. เบาหวาน –…

ธนบุรี เสริมรัฐ_เบาหวาน_TSR_Diabetes

เบาหวาน เบาใจ เมื่อความหวานมีผลต่อหัวใจ

เบาหวาน เบาใจ เมื่อความหวานมีผลต่อหัวใจ น้ำตาลกับหลอดเลือด ความสัมพันธ์ที่อันตราย หลอดเลือดก็เหมือนท่อส่งของที่ต้องทำงานอย่างไม่มีวันหยุด และหัวใจของเราสูบฉีดเลือดผ่านหลอดเลือดเหล่านั้น เมื่อใดก็ตามที่ท่อนี้อุดตัน หรือเกิดความเสียหายก็จะส่งผลต่อร่างกายของเราทั้งหมด และน้ำตาลในเลือดที่สูงคือปัจจัยหนึ่งที่สามารถทำลายหลอดเลือดของเราได้ แล้วทำไมโรคเบาหวานถึงเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ? ทำลายผนังหลอดเลือด ระดับน้ำตาลสูงจะทำให้หลอดเลือดเสื่อมสภาพ แข็งตัวและทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย นอกจากนี้ยังทำให้การสะสมของไขมัน ลิ่มเลือด หรือเกิดแคลเซียมในผนังหลอดเลือด จนนำไปสู่การตีบแคบ หรืออุดตันของหลอดเลือดนั่นเอง ความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยเบาหวานมักมีปัญหาความดันโลหิตสูงร่วมด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้หัวใจและหลอดเลือดของเราทำงานหนักมากยิ่งขึ้น ความดันโลหิตสูงและมีหลอดเลือดที่ตีบแคบจะเพิ่มโอกาสที่ทำให้เกิดโรคหัวใจวายได้มากยิ่งขึ้น เกิดการอักเสบในร่างกายเพิ่มขึ้น นอกจากหลอดเลือดของเราจะอักเสบแล้ว ผู้ป่วยเบาหวานมักมีอาการอักเสบเรื้อรังในร่างกายส่วนอื่น ๆ อีกด้วย อาการของผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง หิวบ่อย กินจุกจิก คอแห้ง กระหายน้ำมากขึ้น ปัสสาวะบ่อยครั้งจนรบกวนการใช้ชีวิต เช่น ปัสสาวะกลางดึก เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย น้ำหนักลดหรือเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ เมื่อมีแผลจะหายยากกว่าปกติ สายตาพร่ามัว ชาปลายมือปลายเท้า โรคเบาหานเป็นปัญหาสุขภาพที่พบเจอได้มากในปัจจุบัน และยังเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดโรคอันตรายอื่น ๆ มากมายเช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดในสมอง ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างไร ? ทานผักเป็นอันดับแรก ก่อนมื้ออาหาร เพราะผักช่วยชะลอการย่อยและดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด…