
อาการเจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก เป็นอาการเริ่มต้นของหลาย ๆ โรค อาจทำให้เกิดความสับสนใจ โดยเฉพาะ “โรคหัวใจ” และ “โรคกรดไหลย้อน” ซึ่งอาการของทั้ง 2 โรคนี้ มักเริ่มมาจากอาการเจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก และความไม่ชัวร์แบบนี้นี่เองที่อาจทำให้ไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องตรงกับโรคที่เป็น
ความเหมือนและต่างระหว่าง โรคหัวใจ กับ โรคกรดไหลย้อน
อาการของกรดไหลย้อน และโรคหัวใจ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบหรือกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด บางครั้งอาจคล้ายกัน โดยเฉพาะเมื่อมีอาการเจ็บหน้าอก ทำให้แยกแยะได้ยากในบางกรณี อย่างไรก็ตาม ทั้งสองโรคก็ยังมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันอยู่
อาการที่เหมือนกัน
- เจ็บหรือแน่นหน้าอก – ทั้งกรดไหลย้อนและโรคหัวใจ สามารถทำให้รู้สึกเจ็บหรือแน่นหน้าอกได้ โดยเฉพาะบริเวณกลางอกหรือส่วนบนของท้อง
- รู้สึกแสบร้อนกลางอก – กรดไหลย้อนมักมีอาการแสบร้อนกลางอก แต่ผู้ป่วยโรคหัวใจบางรายอาจมีอาการลักษณะคล้ายนี้ได้
- อาการอื่นร่วมกัน – ทั้งสองโรคอาจทำให้รู้สึกหายใจไม่สะดวก อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หรือรู้สึกไม่สบาย
อาการที่ต่างกัน
กรดไหลย้อน
- เจ็บหน้าอกเวลาหายใจลึก ๆ หรือไอ แต่ไม่ร้าวไปบริเวณขากรรไกร ไหล่ หรือแขน
- แสบร้อนกลางอก รู้สึกแสบร้อนที่บริเวณอกและลำคอ มักเกิดขึ้นหลังอาหารหรือเมื่อนอนราบ และจะดีขึ้นเมื่อยืนหรือยกศีรษะสูง
- เรอเปรี้ยวหรือขม อาจรู้สึกมีกรดหรืออาหารไหลย้อนขึ้นมาถึงลำคอหรือปาก
- รู้สึกเหมือนมีก้อนในลำคอ ทำให้กลืนอาหารลำบากหรือรู้สึกไม่สบายในลำคอ
- ไอเรื้อรังไม่ทราบสาเหตุ เจ็บคอเรื้อรัง และมีกลิ่นปาก
โรคหัวใจ
- เจ็บแน่นหน้าอกเฉียบพลัน มักเกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
- รู้สึกเหมือนมีของหนักกดทับ หรือเจ็บแปลบที่หน้าอก และอาจร้าวไปที่แขนซ้าย คอ หรือกราม
- อาการรุนแรงมากขึ้น เมื่อมีการออกแรง ออกกำลังกาย หรือเครียด และลดลงเมื่อหยุดพัก
- เหงื่อออกมาก หายใจไม่เต็มอิ่ม คลื่นไส้ วิงเวียน หรือมีอาการใจสั่นร่วมด้วย
- อาจมีอาการจุกบริเวณคอหอย ซึ่งบางรายอาจมีอาการจุกบริเวณใต้ลิ้นปี่
วิธีสังเกตความแตกต่างของอาการระหว่าง โรคหัวใจ กับ โรคกรดไหลย้อน
- อาการเจ็บหน้าอกจากโรคหัวใจ : จะมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก รู้สึกเจ็บร้าวไปที่ลำคอ ขากรรไกร ไหล่ และแขนซ้าย เจ็บเมื่อออกแรง
- อาการเจ็บหน้าอกจากโรคกรดไหลย้อน : จะเจ็บหน้าอกเวลาหายใจลึก ๆ หรือไอ แต่ไม่ร้าวไปบริเวณขากรรไกร ไหล่ หรือแขน มีอาการมากขึ้นหลังมื้ออาหาร
การหาสาเหตุที่แท้จริงขณะที่มีอาการเจ็บหน้าอกนั้นเป็นเรื่องยาก ดังนั้น อย่านิ่งนอนใจ ควรรีบเข้ามาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยอย่างถูกต้องทันที โรคกรดไหลย้อน อาจปรับที่พฤติกรรมได้ แต่ “โรคหัวใจ” หากเป็นแล้วไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตได้